| ชื่อเรียกอื่น | : |
|---|---|
| เดือนที่จัดงาน | : พฤษภาคม,ตุลาคม |
| เวลาทางจันทรคติ | : ขึ้น15 ค่ำ - แรม 2 ค่ำ เดือน 6 และ ขึ้น15 ค่ำ - แรม 2 ค่ำ เดือน 11 |
| สถานที่ | : เกาะหลีเป๊ะ |
| ภาค / จังหวัด | : ภาคใต้ : สตูล |
| ประเภท | : ประเพณีของกลุ่มชาติพันธุ์,ประเพณีเกี่ยวกับการทำมาหากิน |
| ประเพณีที่เกี่ยวข้อง | : |
| คำสำคัญ | : ชาวเล,อูรักลาโว้ย |
| ผู้เขียน | : นฤมล อรุโณทัย และคณะ |
| วันที่เผยแพร่ | : 11 ม.ค. 2559 |
| วันที่อัพเดท | : 4 ก.ค. 2559 |
พิธีลอยเรือนับเป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญที่สุดของชาวอูรักลาโว้ย พิธีนี้จัดขึ้นในช่วงคืนวันเพ็ญเดือน 6 และเดือน 11 ทางจันทรคติของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของฤดูกาล ก่อนพิธีจะเริ่มขึ้น พวกผู้ชายในหมู่บ้านจะเดินทางไปตัดไม้ระกำและไม้ตีนเป็ดเตรียมไว้เพื่อนำมาใช้สำหรับต่อเป็นเรือลอยเคราะห์ หรือที่เรียกในภาษาอูรักลาโว้ยว่า “ปือลาจั้ก” เรือนี้จะทำหน้าที่นำพาทุกข์โศกโรคภัยให้ออกไปจากครอบครัวและชุมชน
ชาวอูรักลาโว้ยจะหยุดการทำมาหากินเป็นระยะเวลา 3 วัน ในช่วงพิธีกรรม และพิธีจะดำเนินไปเป็นระยะเวลา 3 วัน 3 คืน โดยมีโต๊ะหมอเป็นผู้นำการเซ่นไหว้และเข้าทรงเสี่ยงทาย ชาวอูรักลาโว้ยจะเข้าร่วมงานกันทั้งหมู่บ้าน รวมทั้งยังมีญาติพี่น้องจากที่ต่างๆ เดินทางมาร่วมงาน รายละเอียดพิธีในแต่ละชุมชนจะไม่เหมือนกันทีเดียว บางชุมชนก็ไม่มีพิธีลอยเรือ แต่มีพิธีอื่นที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในพิธีลอยเรือ เช่น ที่หาดราไวย์ จังหวัดภูเก็ต มีพิธีอาบน้ำมนต์
สำหรับพิธีอาบน้ำมนต์ที่หาดราไวย์นั้น จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับพิธีลอยเรือ ในพิธีนี้แต่ละครอบครัวจะนำโอ่งใส่น้ำมาตั้งรวมกันในบริเวณลานโล่งที่ใช้จัดพิธีกรรม จากนั้นโต๊ะหมอจะประกอบพิธีพร้อมทั้งเสกน้ำมนต์ในช่วงหัวรุ่ง ชาวอูรักลาโว้ยแต่ละครอบครัวจะทยอยมายังลานพิธีและอาบน้ำมนต์ ซึ่งถือกันว่าจะสามารถช่วยชำระสิ่งที่ไม่ดีให้หลุดออกไปจากร่างกาย ครอบครัว และชุมชน
เช่นเดียวกับพิธีกรรมในวัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลก พิธีลอยเรือมีรหัสที่ซ่อนความหมายอยู่มากมาย มีสัญลักษณ์ต่างๆ ที่บรรพบุรุษพยายามสร้างขึ้นเพื่อสื่อสารให้ชาวอูรักลาโว้ยรุ่นหลังตีความและทำความเข้าใจถึงวิถีแห่งความสามัคคี การอยู่ร่วมกัน การแสดงออกร่วมกัน และการมีชีวิตตามจังหวะจะโคนของธรรมชาติ
ในระหว่างพิธีลอยเรือ แต่ละครอบครัวจะนำไม้ระกำมาแกะสลักเป็นตุ๊กตารูปคนซึ่งจะเป็นตัวแทนของสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งแกะสลักเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น มีด พร้า ขวาน เตาไฟ นอกจากนั้นยังมีปืนเอาไว้ป้องกันตัวด้วย เพราะในสมัยก่อนน่านน้ำแถบนี้มีโจรสลัดอยู่มาก เครื่องมือขนาดจิ๋วจึงเป็นสิ่งสะท้อนประวัติความเป็นมาและวิถีในอดีต เมื่อนำไม้แกะสลักเหล่านี้ไปใส่รวมไว้ในเรือลอยเคราะห์ ก็หมายถึงทั้งชุมชนมีชะตากรรมร่วมกัน และเคราะห์ร้ายที่ทิ้งใส่ไว้ในเรือจะถูกนำออกไปลอยในทะเลนอก ในช่วงเช้ามืดของวันรุ่งขึ้น เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในครอบครัวและชุมชน พิธีนี้จึงตอกย้ำความเป็นชุมชนและการมีชะตากกรมที่ผูกโยงกัน เมื่อพ้นเคราะห์ ทุกคนในชุมชนจะฉลองการมีความสุขร่วมกัน
เป็นที่น่าเสียดายที่พิธีกรรมในปัจจุบันมักจะเน้นเฉพาะความบันเทิง ชุมชนจึงมีเวทีเต้นรำ มีลำโพงขนาดใหญ่เปิดเพลงดังลั่นที่กลบเสียงเพลงรำมะนาอันไพเราะและเต็มไปด้วยความหมาย ดังนั้นสัญลักษณ์ต่างๆ ได้กลายเป็นองค์ประกอบที่ไม่ได้สื่อความหมายอะไรอีกต่อไป ท้ายสุด “สาระ” ที่ซ่อนอยู่จึงถูกลืมเลือนไป
นฤมล อรุโณทัย และคณะ. (2557). ทักษะวัฒนธรรมชาวเล ร้อยเรื่องราวชาวเล. กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.